แฉยับ !! Monalisa & Fusion ทีเด็ดใหม่จาก QDC
ลูกรักคนใหม่ของบ้าน QDC
วันนี้เราจะมาพูดถึงอีก 1 แบรนด์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาในทุกๆครั้งนั้น มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ แบรนด์ QDC ( Quest / Dream / Courage ) ภายใต้การดูแลของบริษัท Shenzhen Qili Audio Application Co., Ltd. มีผลงานเป็นที่นิยมทั้งในงานของนักฟังเพลงจนไปถึงระดับศิลปินนักดนตรีนักร้อง รวมถึงงานวิจัยพิเศษเพื่องานทางการทหารและถ้าจะพูดถึงผลงานล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ได้คลอดหูฟังระดับเรือธงอย่าง Anole VX ที่สร้างความประทับใจให้ใครหลายๆคน จนต้องตัดสินใจควักกระเป๋าเปย์ตัวเองเพื่อที่จะครอบครองหูฟังรุ่นนี้โดยไม่ลังเล มารอบนี้ก็ไม่ธรรมดาอีกเช่นเคย กับ New arrival ที่จูงมือมากันถึง 2 รุ่นใหม่ คือ สาวสวยอย่าง Monalisa และ หนุ่มลูกผสมสุดหล่ออย่างรุ่น Fusion นั่นเอง
Monalisa แม่สาวพราวเสน่ห์
มาเริ่มต้นกันที่สาวงามเจ้าเสน่ห์อย่าง Monalisa ก่อนเลย รุ่นนี้สามารถสั่งซื้อได้เฉพาะรูปแบบ Universal เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นรุ่นที่ผลิตมาทีหลัง Neptune แต่ด้วยสเปคและราคานั้น ถือว่ามายืนในตำแหน่งศิษย์พี่ของรุ่น Neptune อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยการดีไซน์ออกแบบรูปทรง ที่มีส่วนเว้นส่วนโค้ง ถือว่ายังคงรักษาความเป็นผู้นำในด้านการออกแบบรูปทรงหูฟังในรูปแบบ Universal ให้มีความพอดี และแนบสนิทกับหูได้ดีมากๆ จึงได้ความเงียบสงัดที่ดียิ่งกว่าหูฟังทรง UIEM ทั่วๆไปที่เคยสัมผัสมาทั้งหมด
อุปกรณ์ในกล่อง
ตกใจ !!! ตั้งแต่เห็นแพ็คเก็ตที่มาคราวนี้ถือว่าแปลกตาเพราะเลือกกล่องที่มีขนาดค่อนข้างอลังการเกินกว่าจะเป็นหูฟังรุ่นเล็กของแบรนด์ (ขนาด Anole V3 ยังไม่เท่านี้เลย)
และใช่ว่าจะทำให้ผิดหวังที่ไหนหล่ะ เปิดกล่องออกมาพบว่าตะลึงกับ Hard Case ( กระเป๋าใส่หูฟัง ) ที่เป็นหนังสีดำ ทรงวงรี แปะแผ่นอลูมิเนียมที่สกรีนโลโก้แบรนด์ไว้ตรงกลาง และเดินซิปเกือบรอบด้าน ความกว้างขวางนั้นสามารถใส่หูฟังพร้อมสายอัพเกรดลงไปได้สบายๆ โดยสายจะไม่เสียทรงแน่นอน โดนปกติกระเป๋าใบนี้จะเห็นแถมมาให้ตั้งแต่รุ่น 4 ไดร์เวอร์ขึ้นไป แต่รอบนี้ถือว่าใจปล้ำมากๆ
มาพร้อมจุกชนิด single bore และ dual flange tips ที่มาในขนาดของ S/M/L ทั้งหมด 6 คู่ อแดปเตอร์ 3.5 mm. to 6.3 mm. และหัวแปลง 3.5 mono ที่ใช้สำหรับฟังเพลง หรือดูหนังบนเครื่องบิน รวมถึงสายรัดแบบตีนตุ๊กแกอีก 1 เส้น
เจาะลึกตัวหูฟังกันซะหน่อย
การหล่อขึ้นรูปตัวบอดี้แบบไร้รอยต่อด้วย อะคิลิค เกรดการแพทย์ เนื้อหนาใช้สี Smoke เข้มแต่มีความมันวาวและสอดแทรกความหรูหราด้วย Gold Nuggets ทีฝังลงไปทั่วทั้งเรือนร่าง ทั้งตัว Shell และ Faceplate แบบจัดเต็ม และลงตัวด้วยโลโก้ qdc สีทองอร่ามบน Faceplate อีกที..อื้อหือ.สวยงามขนาดนี้ ใครๆก็ต้องหลงรัก แม่สาว Monalisa นี้ ตั้งแต่แรกพบอย่างแน่นอน
ตัวสายสามารถถอดออกได้หากต้องการเปลี่ยนสายเพื่ออัพเกรดเสียงที่ดีขึ้นอีกในอนาคต โดยเป็นขั้วแบบ 2 pin ขนาด 0.78 mm. ส่วนหัวแจ็ค 3.5 mm. Gold Plated โดยรวมวัสดุจัดมาแบบหรูหราและคุ้มค่าไม่แพ้หน้าตาครับ ส่วนสายสต็อคที่ให้มาก็มีความยาว 1.25 เมตร จัดว่ากำลังดี ไม่ยาวเกะกะ และตัวสายยังติดตั้งรีโมทคอนโทรลควบคุมการใช้งานหูฟังและไมโครโฟนสำหรับการใช้สนทนาสื่อสารผ่านโทรศัพท์หรือแม้แต่ใช้สนทนาในเกมส์ก็ให้เสียงที่ชัดเจน
ภายใน
ภายในเจ้า Monalisa นั้นทางแบรนด์ QDC ได้เลือกใช้ไดรเวอร์ BA หรือ Balanced Armature จำนวน 2 ตัวต่อหูฟังหนึ่งข้าง โดยเป็นไดร์เวอร์ที่ทางแบรนด์นั้น วิจัยและพัฒนา ขึ้นมาเอง คุณภาพไม่ต้องคุยเยอะ สามารถการันตีได้ด้วยผลงานชิ้นเอกของรุ่นน้องอย่าง Neptune ที่ใช้เพียงแค่ 1 ไดร์เวอร์ ก็สามารถรังสรรค์ เสียงที่เหนือความคาดหมาย และยากที่เลียนแบบได้อีกด้วย
แนวเสียง
นั้นมาพร้อมกับน้ำเสียงที่เนียนและกลมกล่อมแบบมีเอกลักษณ์ตามสไตล์แบรนด์นี้เลย โทนนัลบาลานซ์โดยรวมนั้นทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ จุดเด่นอยู่ที่ความสมูท และความนิ่งของพื้นหลัง เสียงร้องที่ได้นั้นมีกลิ่นอายคล้ายๆ Dynamic driver อยู่เล็กน้อย เสียงร้องนั้นออกไปทางสมูท ให้ image ที่ลอยเด่นออกมาจากชิ้นดนตรีเล็กน้อย ยิ่งเป็นเสียงนักร้องผู้หญิงนี่ละมุนเหมือนโดนมนต์สะกด มีเนื้อเสียงที่อิ่มกว่า Neptune เกรนเสียงนั้นสะอาดหมดจด สามารถฟังเพลงที่เน้นเสียงร้องเด่นๆได้แบบสบายๆ ในเรื่องของเบสซึ่งค่ายนี้เรียกได้ว่าทำได้ดีมากๆครับ เบสนั้นจะออกไปทางสมูท แต่มีน้ำหนักที่ดีมากๆ อิมเเพ็คของโน็ตเบสแรกนั้นกำลังดี รู้สึกได้ถึงแรงปะทะที่มีเรี่ยวแรง ไม่ถึงกับดุดันแต่ก็ไม่ปวกเปียก และยังเก็บตัวได้ดี เวทีเสียงนั้นถือว่าโอเคเลยครับ เเม้เวทีเสียงจะไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็ทดแทนด้วยเวทีเสียงด้านลึกที่ดีเยี่ยม จึงทำให้รายละเอียดชิ้นดนตรีต่างๆนั้น มีอิมเมจที่ชัดเจน และมีช่องไฟที่ทำให้สามารถโฟกัสตำแหน่งชิ้นดนตรีต่างๆได้ดีเลยทีเดียวครับ
สรุป Monalisa
จัดว่าเป็นหูฟังอินเอียร์ แนว Over all อีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำให้ทดลองฟังเลยครับ ด้วยบุคลิกเสียงที่สมูท เนื้อเสียงดี เสียงร้องเด่น เบสมีแรงปะทะที่กำลังดี จึงเหมาะที่จะฟังเพลงได้หลากหลายแนว เช่น Vocal ,POP ,POP ROCK, Acoustic,R&B และเหมาะอย่างมากสำหรับใครก็ตามที่สนใจอยากเริ่มต้นฟังเพลงในรูปแบบ Audiophile กัน เพราะด้วยค่าเพียง 12,500 บาท และเสียงที่ได้ออกมานั้นเป็นโทนเสียงแบบบาลานซ์ที่ให้เสียงที่สมดุลย์และฟังสบายในระดับนี้ ถือว่าคุ้มมากแล้วครับ
Fusion หูฟังไฮบริดไดร์เวอร์ ตัวแรกของแบรนด์
ต่อมากับหนุ่มหล่อลูกผสมอย่าง QDC Fusion ที่ต้องเรียกได้ว่าเป็นไดรเวอร์ไฮบริดรุ่นแรกของ QDC ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวดนตรีประเภท Jazz Fusion ที่ผสมผสานเอาความหลากหลายรวมไว้เป็น 1 เดียว โดยหูฟังรุ่นนี้ สามารถเลือกสั่งผลิตได้ทั้งแบบ UIEM และแบบ CIEM หากแต่ว่ารุ่นนี้ถ้าต้องการสั่งแบบ UIEM จะไม่สามารถกำหนด Option ในส่วนของสี Body [Shell] และ Faceplate ได้ ลวดลาย Faceplate ที่ทางแบรนด์กำหนดมาให้จะเป็นลวดลายของ หินเทอร์ควอยซ์ ครับ แล้ววางโลโก้แบรนด์ qdc สีเงินเงางาม อีกฝั่งจะเป็นโลโก้ Limited เฉพาะรุ่น Fusion เท่านั้น ในส่วนของสินค้าในรูปแบบ CIEM นั้น สามารถเลือก Option ได้ตามปกติ
องค์ประกอบอื่นๆ
กล่องมาพร้อมแพ็คเกจสุดหรู และกล่องใหญ่อลังการมาก ภายในมาพร้อมอุปกรณ์ครบครันเช่นเคย อาทิ จุกชนิด single bore และ dual flange tips ที่มาในขนาดของ S/M/L ทั้งหมด 6 คู่ พร้อมด้วยแปรงทำความสะอาดหูฟัง-เเคะสิ่งสกปรก (a cleaning pick/brush.) , อแดปเตอร์ 3.5 mm. to 6.3 mm. และหัวแปลง 3.5 mono ที่ใช้สำหรับฟังเพลง หรือดูหนังบนเครื่องบิน รวมถึงสายรัดแบบตีนตุ๊กแกอีก 1 เส้น
สเปคเบื้องต้น
ภายในทางแบรนด์ได้ผสมผสานไดร์เวอร์แบบ balanced armature จำนวน 4 ตัว และ dynamic driver จำนวน 1 ตัว การใช้วัสดุที่คำนึงถึงอคูสติคของเสียง ผ่านการจูนนิ่งผ่าน Crossover แบบ 3 way ส่งผ่านท่อนำเสียงจำนวน 3 ทาง และในส่วนของ Nozzle ทางแบรนด์เลือกใช้เทคโนโลยีด้วยวัสดุ Nickle plated copper alloy เนื้อพิเศษ เฉกเช่นเดียวกับ รุ่นเรือธงอย่าง Anole VX โดยรุ่นนี้จะมีค่า Impedance เพียงแค่ 18Ω และค่า Sensitivity ประมาณ 106dB SPL/mW จึงทำให้ใช้งานได้ง่ายกับทุกเครื่องเล่นเพลงที่ไม่ต้องใช้แรงขับเยอะ หรือต่อฟังตรงๆกับมือถือก็ทำได้ครับ
แนวเสียง
จะให้โทนเสียงที่ให้ความเป็นธรรมชาติที่สูง บาลานซ์เสียงในย่านต่าง ๆ ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยในย่านต่ำของ ที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ หัวโน้ตของเบส ที่มีความเด่นชัด ไม่เน้นแรงปะทะที่มากมาย แต่ให้ความกระชับ เก็บตัวได้รวดเร็ว จังหวะทอดตัวกำลังดี ไม่เร็วหรือว่าช้าจนเกินไป ทำให้มีอิมแพคแรงปะทะที่อยู่ในระดับกำลังเพลินและลื่นไหลมาก
เสียงร้องนั้นสะอาด ชัดถ้อยชัดคำ อยู่ในตำแหน่งที่กำลังดี และมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก โดยไม่ปรุงแต่งจนเกินไป เนื้อเสียงอิ่ม ทำให้ฟังแล้วผ่อนคลาย ไม่รุกเร้ามากนัก เป็นเสียงร้องที่มีมิติและให้ความต่อเนื่องของน้ำเสียงที่ดี กลางแหลมออกไปทางคมชัดจะแจ้ง ปลายแหลมพริ้วเนียนเป็นธรรมชาติมาก ๆ ครับ เวทีเสียงนั้นก็กว้างขวาง ไม่อึดอัด ฟังสบายมาก ๆ ครับ มิติด้านลึกได้ดีเยี่ยม แนวเสียงที่เหมาะจะเป็นแนว Classical ,Jazz ,Vocal หรือ แม้กระทั่ง Pop ,Pop Rock , R&B ก็ยังทำได้ดี นอกจากจะให้เสียงร้องที่เป็นธรรมชาติและมิติที่กว้างขวางแล้ว ยังให้โฟกัสของชิ้นดนตรีที่นิ่งและมีทิศทางที่แม่นยำ รวมทั้งการแยกแยะชิ้นดนตรีที่เด็ดขาด ไม่ธรรมดาเลยครับตัวนี้
สรุปจ้าา
ต้องบอกว่าไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆครับ สำหรับ QDC ไม่ว่าจะเป็น Monalisa จัดว่าเป็นหูฟังอินเอียร์ แนว Over all อีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำให้ทดลองฟังเลยครับ ด้วยบุคลิกเสียงที่สมูท เนื้อเสียงดี เสียงร้องเด่น จึงเหมาะที่จะฟังเพลงได้หลากหลายแนว
และโดยเฉพาะ Fusion ที่ถือว่าเป็นไม้เด็ดจริงๆครับ กับราคา 32,500 บาทถือว่าทำได้ดี ยิ่งถ้าได้จับคู่กับ สาย OSLO Cable นี่ต้องบอกเลยว่าเพิ่มความละมุนละไมและยังคงรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ จะเรียกว่าเกิดมาเพื่อเป็นคู่กันเลยก็ว่าได้ครับ
เพื่อนๆสามารถมาทดลองฟังสินค้าจริงๆได้ที่ Iconic Music ทุกสาขานะครับ แล้วพบกันนะค๊าบบบ
ใส่ความเห็น