
ถ้าเพื่อนๆเป็นคนชอบฟังเพลงผ่านหูฟังที่ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ หรือไม่ถูกปรุงแต่งจนเกินไป หูฟังส่วนใหญ่ที่ขายกันอยู่บนท้องตลาด อาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเพื่อนๆสักเท่าไหร่ หูฟังที่ตอบสนองต่อเสียงอย่างสมบูรณ์ ครบถ้วนทุกย่านความถี่
หูฟังที่เหล่า Sound Engineer ใช้งานกันตามสตูดิโอ หรือที่กำลังจะพูดถึงก็คือหูฟัง MONITOR นี่แหละครับ
สำหรับหูฟัง MONITOR ที่ถูกนำมาพูดถึงในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งรุ่น เรือธง จากทางค่าย Beyerdynamic แบรนด์ สัญชาติ
เยอรมัน นั้นก็คือรุ่น “ DT 1770 PRO “ หูฟังที่ถูกสร้างมาเพื่อการใช้งานใน Studio รวมไปถึงใช้ในการมิกซ์เพลง อัดเพลง
และทำมาสเตอร์เพลง เพราะฉะนั้นแล้วรับรองว่าโดนใจนักฟังสาย Flat อย่างแน่นอน เราไปดูกันเลยดีกว่า
หูฟังที่ว่าน่าตาอย่างไร และทำไมต้องใช้

เริ่มกันด้วยหน้าตาและกล่องแพคเกจ ที่หอหุ้มหูฟัง Top-Class Studio บอกเลยว่านอกจากดีไซน์ที่ดูสวยงาม ยังคง
ความแข็งแรง หายห่วงทุกการขนส่ง ด้านหน้าของกล่องถูกดีไซน์ให้เปิดอ่านเรื่องราว Spec ชนิดของ Driver
ส่วนจะเป็น Driver แบบไหนเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในช่วงท้ายครับ ตอนนี้เรามาเปิดกล่องดูด้านในกันดีกว่าครับ

เมื่อเปิดกล่องก็จะพบกับกล่องครับ กล่องอีกแล้วครับ แต่เป็นกล่อง Premium bag ที่เอาไว้ใช้เก็บตัวหูฟังและอุปกรณ์
หน้าตาสวยงาม เปิดปิดด้วยซิป มีความแข็งแรง

ในส่วนของอุปกรณ์ที่เสริมมาให้ในตัวกล่องก็จะมี สาย AUX/3.5 mm. (แบบตรง) สาย AUX/3.5 mm. (แบบม้วน)
หัวแจ็ค AUX/3.5 mm. to 6.5 mm. Earpad (2 คู่) ทีนี้เรามาดูในส่วนของตัวหูกันก่อนดีกว่าครับ

รูปร่างหน้าตาของ “ DT 1770 PRO “ นั้นจะมาในทรงของ Full-Size ขนาดใหญ่มีตัวก้านเป็น Stainless Steel ที่แข็งแกร่งไม่หักงอง่ายๆ หุ้มด้วยแผ่นรองศรีษะที่นุ่มสวมใส่ได้แบบไม่กดทับจนปวด Earpad เป็น Memory foam ที่นุ่มมาก ๆ และยังซึมซับแรงกดทับได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงยังคืนรูปได้รวดเร็วอีกด้วย หุ้มด้วยผ้าอย่างดีระดับพรีเมียม สัมผัสนุ่มละมุนหู ลื่น ไม่เหนียว ช่วยให้ใส่ได้สบายมากยิ่งขึ้นไปอีกจนใส่ติดต่อกันทั้งวันก็ยังได้ ส่วนของ Body นั้นใช้โครงเป็นโลหะมีความแข็งแรง ทนทานสูง และยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย
ไปต่อกันถึงภายในของ “ DT 1770 PRO “ กันบ้างนะครับ

ภายในของ “ DT 1770 PRO “ ใช้ Driver แบบ Dynamic Tesla neodymium driver ขนาดข้างละ 45 มิลลิเมตร แรงต้านทานอยู่ที่ 250 Ohm รองรับความถี่เสียงที่ 5 – 40,000 Hz รองรับย่านความถี่ที่กว้างมาก ๆ และมี Pressure Level ที่ 102 dBSPL (1mW/500Hz) สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ได้นำไปใช้กับ interface หรือ mixed แนะนำให้ใช้ (headphone amp) เพื่อเพิ่มแรงขับด้วยนะครับ ส่วนตัวสายที่ให้มาจะเป็นแบบ mini-XLR หรือ 3 pin รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX/3.5 mm. สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ ในส่วนของ Earpad ที่ให้มาถึง 2 คู่ จะแตกต่างกัน ในเรื่องของเสียงด้วย ซึ่งแต่ละแบบก็จะให้แนวเสียงที่แตกต่างกัน แบ่งเป็นแนวเสียงที่เหมาะใช้งาน Mixed เพลงในห้องอัด และอีกแบบให้แนวเสียงสำหรับการใช้งาน Monitor
