Beyerdynamic : TEAM TYGR ยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพ Streaming และ E-Sport
สวัสดีครับผมวันนี้ผมเอาข่าวมาแจ้งเมื่อไม่นานนี้ทาง Beyerdynamic ในเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ชื่อว่า Beyerdynamic : TRGR ซึ่งจากที่สอบถามมาเลยขั้นต้นว่า “มันอ่านว่าอะไรครับ ? ” ซึ่งผมก็ได้คำตอบว่า ” ไท-เกอร์” ครับ ฮ่าๆ ซึ่งผมก็สืบต่อกับ Google Translator ครับ ซึ่งมันก็อ่านว่า “ไท-เกอร์ , ไท-กา” อะไรประมาณนี่ยแหละซึ่ง Google Translator มันก็ Detect เจอว่าเป็น ” ภาษาเช็ก ” โอเค แปลว่า ” เสือ ” เอาเป็นว่า !! ช่างมันเถอะ !! 55555+
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ชื่อมันครับ แต่ประเด็นมันคือ ทาง Beyerdynamic นั้นได้รวมหูฟังตัวนี้ เข้ากับ Mic USB รุ่น FOX ซึ่ง จึงเกิดชื่อรุ่นว่า ” TEAM TYGR” นั้นแหละครับ ทำให้เรามีข้อสงสัยกันต่างๆนาๆ เลยว่า
” ตัวเนี่ยมันมาเพื่อเกมส์ใช้ไหม ? ” ซึ่งผมก็ตอบอย่างชัดเจนเลยว่า ” ใช่ครับ แต่มันก็ต่อยอดได้ด้วย” Beyerdynamic ตัวนี้จัดเซ็ตมาให้เหล่าเกมเมอร์ ที่ซีเรียสในการเล่นเกมส์ และการใช้งาน Steaming ซึ่่งแน่นอนว่าเป็น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในปัจจุบัน เพราะอาชีพใหม่ๆอย่าง Youtuber, Gamer, Game Caster ฯลฯ อาชีพอะไรก็ตามเหล่านี้ย่อมต้องการใช้อุปกรณ์ด้านเสียงที่มีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นการฟัง หรือบันทึกเสียงครับ ซึ่ง Set จัดได้ว่า #เป็นเซ็ตเมพขิงๆนักเล่นเกมส์และอาชีพเหล่านี้เลยก็ว่าได้ครับ
มาดูสเป็คของตัว TYGR
โดยมีคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า “อ้าวแล้ว Team TYGR กับ MMX300 อันไหนน่าเล่นกว่า อันไหนดีกว่า ” ซึ่งคำตอบเหล่านี้ผมจะไม่โกหกเลย แต่ผมอยากให้มองตามโจทย์การใช้งานของเรามากกว่า ซึ่งคำถามที่ทุกคนต้องถามตัวเองก่อนเลยคือ
1. เราต้องการ Stream หรือ อัดเสียง จริงๆจังๆแค่ไหน ?
2.เราใส่หูฟังในการเล่นเกมส์นานแค่นไหน ?
คำตอบอยู่ตรงนี้ครับ
คำถามแรก ” เราต้องการ Stream หรือ อัดเสียง จริงๆจังๆแค่ไหน ? ”
ตอบ ก่อนอื่นเล่นผมเชื่อว่า พี่ๆน้องๆชาว Iconic Music นั้น ส่วนใหญ่เป็นนักฟังเพลงที่เล่นหูฟังเสียงมากกว่า ฉะนั้นผมขอตอบคำถามนี้เป็นพิเศษก่อนเลย ทำไมถึงต้องถามว่าตัวเราเองต้องการอัดเสียงหรือ Streaming จริงๆจังๆ แค่ไหน เพราะว่ายังไง Microphone ที่แยกออกจากตัวหูฟังนั้นย่อมมีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าเยอะมาก เพราะว่า สิ่งที่เรียกว่า Diapharm นั้นมีหน้ารับที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้สามารถจับเสียงได้ละเอียดกว่า มีค่า Headroom (ซึ่งตรงนี้ไม่เสมอไป แต่โดยวัดจากส่วนใหญ่) และ มีภาค Pre Amp ที่เคยชวยขยายสัญญาณการรับเสียง ทำให้เสียงออกมามีเนื้อเสียงกว่าอิ่มกว่า ไมค์ที่ติดมากกับตัวหูฟังครับ ซึ่งเพราะกับการอัดเสียงที่ต้องการความชัดเจนมาก อย่างเช่น งานพากย์เสียง อัดเครื่องดนตรี หรืออัดร้องเพลง ซึ่งขอบเขตการใช้งานมันกว้างกว่าไมค์ที่ติดมากับหูฟังเยอะมาก แต่ถ้าเราไม่ได้ต้องการขนาดนั้น ไมค์ที่ตัดกับมาหูฟังนั้นก็เพียงพอมากครับ เพราะตัว MMX300 นั้นเป็นไมค์ที่มีการตัดเสียงรบกวนโดยจุดประสงค์หลังของไมค์ที่ติดมากับหูฟังนั้น เน้นเพื่อใช้งานด้านการสื่อสารครับ เช่น พูดคุยกันในทีม หรือ การ Cast Game ที่ไม่ได้ต้องการคุณภาพสูงมาก ก็ใช้ได้มากพอเหมือนกัน
คำถามต่อมา ” เราใส่หูฟังในการเล่นเกมส์นานแค่นไหน ? ”
ตอบ เพราะ Housing ของ TYGR และ MMX300 นั้นต่างกันครับ โดยตัว TYGR นั้นจะเป็นแบบ Semi Open แต่ตัว MMX300 เป็น Close Back ซึ่ง ทั้ง 2 แบบนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันครับ โดยข้อที่ของ Semi Open คือ ช่วงให้เราฟังได้นานครับ เพราะมีการระบายความร้อน และระบายแรงปะทะของเบส ออกไปพอสมควรเลย ซึ่งเวลาเราฟังนานๆมากเนี่ยบอกเลย ความล้าหูของ Semi Open เนี่ยมันน้อยกว่าครับ ซึ่งอย่างที่ Beyerdynamic บอกว่า ” TEAM TYGR คือ เซ็ตสำหรับคนที่ซีเรียสเรื่อง Streaming และ Game Caster หรือกระทั่งคนพากย์เสียง #ฉะนั้นการทำงานเหล่านี้มันไม่ได้จบแค่ตอนเล่นเกมส์ครับ เราอาจจะต้องนั่งตัดต่อเสียง หรือ Mixing ระดับนึงเลย ซึ่งแน่นอน เราต้องใส่นานแน่นอนครับ ฉะนั้น TYGR จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะนะ ผมบอกเลย #เช่นกันแต่ถ้าเราแค่ Streaming เล่นเกมส์เสร็จแล้วไม่ได้ทำอะไรต่อเลย ฉะนั้น MMX300 ก็คอยโจทย์เราได้เหมือนกันครับไม่ได้แย่กว่าเลย เพราะ MMX300 ก็ใช้ Driver ระดับเทพอย่างของตัว DT770Pro เหมือนกัน
ซึ่งผมหวังบทความนี้หลายจนได้รู้จัก Beyerdynamic : TEAM TYGR ได้ระดับนึงนะครับซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมได้ทดลองกันจริงๆจังๆเดี๋ยวผมจะมาเล่าให้ฟังกันอีกทีครับ ว่ามันเป็นยังไงกันบ้างแต่โดนขั้นต้นเนี่ยสำหรับผมมันค่อนข้างน่าสนใจมากเลยนะ เพราะผมว่ามันง่ายและสะดวกดีครับ ขอขายของกันแบบตรงๆเลยแล้วกันครับว่า เพื่อนที่สนใจอยากได้เจ้าตัวนี้ก็ สามารถสั่งซื้อได้ตามนี้เลยครับผม สำหรับวันนี้ผมขอตัวลาไปก่อนครับเจอกันใหม่รอบหน้าครับผม
By Hanconic…..
ใส่ความเห็น