หูฟัง IEM ในราคาไม่เกิน หมื่นห้า เลือกตัวไหนดี ???

หูฟัง IEM ในราคาไม่เกิน หมื่นห้า เลือกตัวไหนดี ???

สวัสดีครับเพื่อนๆ เหล่านักฟังเพลงและผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นหูฟัง หรือแม้กระทั่งผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นมองหาหูฟังไว้คู่กายทุกคนทุกท่าน ผมเชื่อครับว่าท่านที่กำลังอ่านบทความนี้ เป็นจำนวนกว่า 98.99 % นั้น “มีหูฟังแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ตัว” ใช่มั้ยล่ะครับ

แน่นอนครับว่าหลายๆท่าน ต้องเคยผ่านหูผ่านตากับการรีวิว หูฟังต่างๆมามากมาย แต่ก็ยังเกิดความลังเลสงสัยใช่มั้ยครับ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะแต่ละแบรนด์ที่ผลิตหูฟังออกมาสู่ตลาดในแต่ละรุ่นนั้น ต่างก็มีเทคนิคหรือเคล็ดลับเฉพาะตัว ที่ต่างกันมากมายเลยทีเดียว จุดประสงค์ในการทำบทความนี้ก็เพื่อช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้สำหรับเพื่อนๆ ได้ตัดสินใจในการเลือกซื้อหูฟังให้ตรงตามความต้องการได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ 

ก่อนอื่นต้องบอกว่าการแนะนำต่อจากนี้ไม่ได้จัดเรียงตามลำดับแต่อย่างใด เพราะเราเชื่อว่า หูฟังที่ดีที่สุด คือหูฟังที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ฟังมากที่สุดนั่นเอง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา  เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

1.Fearless audio รุ่น S4 gen.2

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ขายดีมากๆ โดยเฉพาะแบบ CIEM ด้วยสเปคที่อัดแน่นด้วย ไดร์เวอร์แบบ BA ถึง 4 ตัวต่อข้าง กับราคาที่เริ่มต้นเพียง 8900 บาท (สำหรับ UIEM) แนวเสียงที่ตอบโจทย์กลุ่มเพลง Pop / Rock /acoustic เป็นอย่างดีครับ

แนวเสียง

  • เบสที่มีอิมแพครุกเร้า มวลกระชับ และเก็บตัวได้ไว
  • เสียงร้อง มีน้ำมีนวล ไม่แห้งบาง ตำแหน่งจะกลมกลืนกับชิ้นดนตรี แต่ไม่ทับซ้อนกันครับ
  • เสียงแหลม ที่สดสว่าง เคลียร์ ปลายเสียงมีความคมชัด
  • เวทีเสียงกว้างปานกลาง การแยกชิ้นดนตรีทำได้ดี

ข้อดีอื่นๆ

  • สามารถสั่งทำได้ทั้งแบบ UIEM และ CIEM
  • สามารถกำหนดสีของตัว Shell และ Faceplate ได้
  • สาย Stock เป็น Silver Plated 8 wires

สรุป

ถือว่าเป็นหูฟังที่ให้เสียง Overall สำหรับการฟังเพลงครับ หรือแม้กระทั่งนักดนตรี ที่อยากหาหูฟังเพื่อใช้ทำงานเพลง ตัวนี้ถือเป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้ามครับ

2.Shozy รุ่น BG (New BG)

รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่มีไดร์เวอร์มากถึง 5 ตัวต่อข้างครับ ตัวนี้มีจำหน่ายเฉพาะแบบ UIEM เท่านั้นครับ แต่ให้ฟิลลิ่งการสวมใส่คล้ายๆหูฟังแบบ CIEM เลยครับ และตัวสายที่มาพร้อมกับหูฟังนั้นเรียกว่าเป็นสายอัพเกรดเลยก็ว่าได้ การหุ้มฉนวนที่ช่วยลดการเกิด Microphonic ได้ดี และอุปกรณ์ที่ให้มาถือว่าไม่กั๊กเลยจริงๆ มาพร้อมราคาสบายๆ เพียง 9,990 บาทเท่านั้นครับ

แนวเสียง

  • มวลเบสขนาดกำลังดี หัวโน๊ตชัดเจน อิมแพคที่นุ่มนวล ไม่รุกเร้ามากนัก
  • เสียงร้องเป็นธรรมชาติ ให้อิมเมจที่สมจริง ตำแหน่งนักร้องไม่รุกเร้ามากนัก
  • เสียงแหลม ให้ปลายเสียงที่เนียนพริ้ว เสียงแหลมไม่จิกกัดหู
  • เวทีเสียงที่กว้างฟังสบาย ช่องไฟของชิ้นดนตรีต่างๆถือว่าเด็ดขาด

ข้อดีอื่นๆ

  • ขั้วแบบใหม่เป็น 2 pin ขนาด 0.78 mm.
  • รูปทรงมีขนาดเล็กสวมใส่ง่าย แม้แต่คนที่มีรูปทรงหูค่อนข้างเล็กครับ

สรุป

เหมาะสำหรับคนที่มองหาหูฟังอินเอียร์ที่สามารถใส่ฟังเพลงได้นานๆ หลายๆชั่วโมง ด้วยบอดี้ที่ใส่สบาย รวมไปถึงแนวเสียงที่โปร่งกว้าง ฟังนานๆไม่ล้าหูแน่นอนครับ แนวเพลงที่เหมาะสม Classic / pop / Jazz สามารถใช้ฟังได้ตั้งแต่ดนตรีวงเล็กๆ ไปจนถึงออเคสตร้าได้เลยครับ

3. Tipsy ears รุ่น Dunmer Pro

รุ่นนี้พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Dunmer ครับ โดยรุ่นนี้จะผสมผสานระหว่าง ไดร์เวอร์แบบ Dynamic และ Balanced Amature ครับ เรียกว่าจูนนิ่งมาให้ครบเครื่องมากขึ้น แถมราคายังจับต้องได้ง่ายเพียง 9,990 บาทครับผม

แนวเสียง

  • เบสที่มีมวลที่น้อยลงจากรุ่น Dunmer เก็บตัวไวปานกลาง แต่มีความ Deep ที่ลึกพอสมควรครับ
  • เสียงกลางที่มีความสด เสียงเกากีต้าร์ เครื่องสายต่างๆ ถือว่าเก็บรายละเอียดดีมากครับ และเสียงนักร้องที่ดูเคลียร์ขึ้นครับ
  • เสียงแหลมที่ใส ได้ประกายของเสียงแหลมที่โฟกัสได้อย่างชัดเจน
  • เวทีเสียงที่กว้างกำลังดี ด้านลึกที่สัมผัสถึงเครื่องดนตรีที่อยู่ด้านหลังอย่างชัดเจน โฟกัสตำแหน่งชิ้นดนตรีต่างๆ ได้ดีครับ

ข้อดีอื่นๆ

  • สายเป็นสายอัพเกรดทองแดงชุบเงินแบบถัก 2 แต่มีความพิเศษที่ตัวฉนวนเป็นแบบไนลอน (Nylon) ทนทาน น้ำหนักเบา
  • ลาย Faceplate สวยครับ ดูแพงมากๆ

สรุป

ถือว่ารุ่นที่พัฒนาแนวเสียงให้มีความบาลานซ์มากขึ้น ฟังเพลงได้หลากหลาย เหมาะสำหรับแนวเพลง Rock / EDM / R&B / Hiphop หรือจะเป็น Jazz ก็ยังทำได้ดีครับ

4.QDC รุ่น Monalisa

เป็นหูฟังที่เพิ่งเปิดตัวสดๆร้อนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยรุ่นนี้เลือกใช้ไดร์เวอร์ไม่มาก เลือกใช้ไดร์เวอร์แบบ BA เพียงแค่ข้างละ  2 ตัวเท่านั้น รุ่นนี้วางจำหน่ายแบบ UIEM เท่านั้น โดยบอดี้นั้นผสมผสาน Gold Nuggets ลงบนตัว Shell สี Smoke สวยงามเลยทีเดียว ราคาค่าตัวไม่แรงครับ เพียง 12,500 บาทเท่านั้นครับ

แนวเสียง

  • เบสนั้นจะออกไปทาง ทุ้ม นุ่ม สมูท และมีน้ำหนักที่ดีมากๆ อิมเเพ็คของโน็ตเบสแรกนั้นชัดเจน เก็บตัวไวปานกลาง
  • เสียงร้องที่อิ่มหนา และลอยเด่นขึ้นอยู่หน้าเครื่องดนตรีเล็กน้อย
  • เสียงแหลมจะไม่สว่างใสมากนัก เป็นเสียงแหลมที่เนียนๆ ฟังสบายๆ ครับ
  • เเม้เวทีเสียงจะไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็ทดแทนด้วยเวทีเสียงด้านลึกที่ดีเยี่ยม จึงทำให้รายละเอียดชิ้นดนตรีต่างๆนั้น มีอิมเมจที่ชัดเจน และมีช่องไฟที่ทำให้สามารถโฟกัสตำแหน่งชิ้นดนตรีต่างๆได้ดีเลยทีเดียว

ข้อดีอื่นๆ

  • บอดี้เล็กสวมใส่ง่าย แนบสนิทไปกับหูเลย เสมือนใส่หูฟัง CIEM เลยครับ
  • สายมีไมค์ / เพิ่ม-ลด เสียง ใช้ได้ทั้ง IOS , Andorid
  • การออกแบบขั้ว 2 Pin แบบให้ปลอดภัยต่อการหัก/งอ

สรุป

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาหูฟังที่สามารถใช้งานได้สะดวก ใส่ฟังเพลงได้นาน ฟังเพลงผ่านสมาร์ทโฟนแล้วต้องการใช้ไมค์ในการสนทนาระหว่างวัน เสียงที่ได้ออกมานั้นเป็นโทนเสียงแบบบาลานซ์ที่ให้เสียงที่สมดุลย์และฟังสบายในระดับนี้ ถือว่าคุ้มมากแล้วครับ เหมาะเพลงแนว Vocal / Pop / Rock

5.Final Audio รุ่น B2

ตัวนี้เป็นหูฟัง IEM ซีรี่ย์ล่าสุดของทางแบรนด์ครับ ภายในประกอบไปด้วยไดร์เวอร์เพียง 1 BA เท่านั้นครับ บอดี้ทำมาจาก Stainless Steel สี gunmetal finish ที่ดุดันดูทันสมัย รูปทรงที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีทำให้ใส่นานๆก็ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บหูครับ ด้วยวัสดุและงานเกรดระดับพรีเมี่ยมขนาดนี้ ราคาในไทยเพียงแค่ 11,970 บาทครับ

แนวเสียง

  • เบสมีแรงปะทะดี เก็บตัวได้ไว รายละเอียดต่างๆนั้นชัดเจน
  • เสียงกลางนั้นจะโดดเด่นในเรื่องความใส ตำแหน่งนักร้องจะอยู่ใกล้ตัวผู้ฟัง ในขณะที่เครื่องดนตรีอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย
  • เสียงสูงทอดหางเสียงได้ดี ปลายแหลมติดคัลเลอร์นิดๆ ไม่แหลมบาดหู
  • เวทีเสียงขนาดปานกลาง วางตำแหน่งเครื่องดนตรีได้ดี เสียงร้องจะอยู่ด้านหน้าเล็กน้อย เหมาะสำหรับเพลงที่มีเครื่องดนตรีไม่มากชิ้น

ข้อดีอื่นๆ

  • แจ๊คหัว L ช่วยลดการหัก/งอ เวลาเอาเครื่องเล่นเพลงใส่กระเป๋ากางเกง
  • บอดี้สแตนเลสแข็งแรงมาก
  • ขั้ว mmcx ทนทานต่อการใช้งาน

สรุป

หากใครที่ชอบฟังเพลงที่เน้นเสียงร้องที่อ่อนหวาน เสียงเครื่องดนตรีชัดเจน โดยแนวเพลงที่เหมาะมาก ๆ เลยก็จะเป็นแนวเพลงอย่าง Acoustic, Jazz, Bossanova, Vocal ครับ

6.Cayin รุ่น YB04

สำหรับแบรนด์นี้ถ้าเป็นวงการเครื่องเสียงคงรู้จักชื่อเสียงกันเป็นอย่างดี ใช่มั้ยหล่ะครับ หรือถ้าให้พูดถึงเครื่องเล่นเพลงพกพาระดับไฮเอนด์ อย่าง Cayin N8 เพื่อนๆก็คงร้อง อ๋อ ไปตามๆกัน ถึงคราวที่จะปล่อยหูฟังอย่าง Cayin YB04 ออกมา ทางแบรนด์เลือกใช้ไดร์เวอร์แบบ BA ของค่าย Sonion และ Knowles ถึงข้างละ 4 ตัว และตัวบอดี้หูฟังทำจากอลูมิเนียมเกรดการบินแบบชิ้นเดียว ด้วยราคาที่สมน้ำสมเนื้อครับ เพียง 16,990 บาท อาจจะดูเกินจากโจทย์ที่ตั้งไว้ แต่ด้วยความคุ้มค่าทางทีมงานจึงอยากจะแนะนำเพิ่มเติมครับ

แนวเสียง

  • มวลเบสจะมีขนาดไม่ใหญ่เลยครับ กำลังดีเลย (อาจน้อยไปสำหรับผู้ที่ชอบเบส) อิมแพคมีพอประมาณไม่กระแทกกระทั้น เบสเก็บตัวได้ไวปานกลาง
  • เสียงกลางค่อนข้างเป็นธรรมชาติมากๆครับ ยกตัวอย่างเช่นรายละเอียดของกีต้าร์ เปียโน นี่คือเก็บทุกเม็ด เนื้อเสียงร้องที่เนียน ละเมียดละไม ตำแหน่งนักร้องที่ลอยเด่นขึ้นมาด้านหน้า ใครที่ชอบเสียงร้องนี่คือเล่นเอาเคลิ้มครับ
  • เสียงแหลมไม่เสียดหู มีความคมชัดสูง ปลายเสียงใสรายละเอียดครบถ้วนชัดเจน
  • เวทีเสียงที่กว้างขวาง โอ่อ่า และยังแม่นยำในส่วนของตำแหน่งเครื่องดนตรีต่างๆบนเวทีเลยหล่ะครับ

ข้อดีอื่นๆ

  • บอดี้สวยงาม หรูหรา และมีน้ำหนักเบามากๆ
  • สายอัพเกรดแบบถัก 8 โดย แบ่งเป็น 6N single crystal copper จำนวน 4 เส้น และ silver alloy อีก 4 เส้น
  • ขั้ว 2 pin ขนาด 0.78 mm. แบบมีปลอกหุ้มเพิ่มความแข็งแรงในการใช้งาน
  • ของแถมชุดใหญ่ไฟกระพริบ จุก 12 คู่ / แปรงทำความสะอาด /กระเป๋าหนัง

สรุป

หูฟังอย่าง Cayin YB04 ต้องบอกว่าครอบคลุมทุกการใช้งานจริงๆครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบฟังเพลงแนว Vocal / Classical / Jazz / Blue และยังสามารถตอบโจทย์คนที่ชอบเล่นเกมส์แนว FPS ที่ต้องการความแม่นยำของตำแหน่งผู้เล่นอื่นๆ รับรองว่าทั้งฟังเพลงหรือเล่นเกมส์ก็ทำได้ดีเลยครับ

7. Naga Audio S2

สำหรับหูฟังรุ่นนี้ทางทีมงานเล็งเห็นว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่ให้เสียงที่มีเอกลักษณ์มากๆครับ โดยรุ่นนี้ทางแบรนด์เลือกใช้ไดร์เวอร์ แบบ BA เพียงแค่ 2 ตัวต่อข้างเท่านั้นครับ โดยรุ่นนี้สามารถเลือกทำได้ทั้งแบบ UIEM และแบบ CIEM เลยครับ

แนวเสียง

  • มวลเบสที่มีขนาดใหญ่ มีความกระชับ เก็บตัวดี ให้ Deep bass ที่มีความคล้ายไดร์เวอร์แบบไดนามิคเลยครับ
  • เสียงร้องตำแหน่งจะ Foword จากเครื่องดนตรีอื่นๆขึ้นมาเล็กน้อย อิมเมจเสียงร้องค่อนข้างใหญ่สมจริง และมีความกังวาล
  • เสียงแหลมจะออกมนๆ ปลายเสียงที่ทิ้งน้ำหนักของเสียงได้อย่างพอดี สมจริง เป็นธรรมชาติดีครับ
  • เวทีเสียงจะไม่กว้างมาก แต่ไม่อึดอัด ให้อิมเมจชิ้นดนตรีค่อนข้างใหญ่ เรียกว่าเข้าถึงอารมณ์ดนตรีอย่างเต็มที่เลยครับ

ข้อดีอื่นๆ

  • สามารถเลือกทำได้ทั้งแบบ UIEM และแบบ CIEM
  • สาย Stock มาเป็นชนิด Silver plated Copper
  • ดีไซน์บอดี้ที่มีขนาดเล็ก สวมใส่สบาย

สรุป

Naga Audio S2 เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบแนวเพลงที่มีเครื่องดนตรีไม่มาก ประเภท Pop / Rock / EDM / Vocal ถือว่าเป็นหูฟังอีกรุ่นที่เข้าถึงอารมณ์ดนตรีแบบสุดๆไปเลยครับ

ปิดท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับบทความนี้ หวังว่าจะช่วยเป็นไกด์ไลน์ให้เพื่อนๆได้เลือกซื้อหูฟังได้ง่ายขึ้นนะครับ ในส่วนของราคาและโปรโมชั่นต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อนๆสามารถโทร หรือติดต่อทาง Inbox Fanpage / Line@ หรือการเดินทางเข้ามาลองฟังที่ร้านด้วยตัวเอง ทางเราก็มีทีมงานคอยให้การต้อนรับเพื่อนๆเสมอนะครับ สุดท้ายนี้หากผิดพลาดประการใด ก็ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ พบกันใหม่กับบทความต่อไป จะเป็นอะไรนั้น ฝากติดตามกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น