DUNU DUW-02

สายทองแดงชุบเงินถักที่มีความบริสุทธิ์สูง OCC แบบ Litz
OCC หรือที่เรียกกัน (Ohno Continuous Casting) เป็นเทคนิคการทำสาย
ทองแดงด้วยการให้ความร้อนต่อเนื่องตั้งแต่ออกจากแม่พิมพ์ ไปจนถึงการรีดเป็นเส้น
อย่างช้าๆ เพื่อลดออกซิเจนในสายทองแดงให้ได้น้อยที่สุด ซึ่งจะดีกว่าสายแบบ OFC
สายจะมีความบริสุทธิ์มากกว่า ให้คุณภาพเสียงที่ดีสมบรูณ์ครบก้วนมากกว่า
และมีการใช้เทคนิคพันสายแบบ Litz พันสายทองแดงและหุ้มฉนวน
ให้สายไม่เขียวง่าย ให้มีเสียงรบกวนต่ำช่วยให้เสียงมีความเที่ยงตรงสูงขึ้น

ตารางเปรียบเทียบสายรุ่นต่างๆ
สาย DUW-02 นั้นคือสายทองแดงชุบเงินถักปราศจากออกซิเจน OCC
สายจะมีความบริสุทธิ์มากกว่า OFC ให้คุณภาพเสียงที่ดีสมบรูณ์ครบถ้วนกว่า
เป็นสายที่ใช้เทคนิคพันสายแบบ Litz 1 ทำให้สายไม่เขียวง่าย ลดการเกิด
สัญญาณรบกวน เสียงมีความเที่ยงตรงสูงขึ้น คุณภาพเสียงจึงดีกว่า
ตัวนี้หัวแจ็คเป็นแบบ 3.5MM มาตราฐาน

สาย CHORD นั้นคือสายถักผสมระหว่าง ทองแดง Furukawa OCC
และสายเงิน Neotech เป็นสายแบรนด์เกรดพรีเมี่ยม ไม่ใช่สายธรรมดา
ใช้เทคนิคพันสายแบบ Litz กลม ทำให้สายไม่เขียวง่าย ลดการเกิด
สัญญาณรบกวน เสียงมีความเที่ยงตรงสูงขึ้น คุณภาพเสียงจึงดีกว่า
ตัวนี้หัวแจ็คเป็นแบบ 3.5MM มาตราฐาน ส่วนหัวอื่นจำหน่ายแยก

สาย BLANCHE นั้นคือสายเงินบริสุทธิ์ของ Neotech เป็นสายแบรนด์
เกรดพรีเมี่ยม ไม่ใช่สายธรรมดา ใช้เทคนิคพันสายแบบ Litz 1
สายไม่เขียวง่าย ลดการเกิด สัญญาณรบกวน เสียงมีความเที่ยงตรงสูงขึ้น
คุณภาพเสียงจึงดีกว่า ตัวนี้เป็นรุ่นเดียวที่มีหัวแจ็คมาให้ครบทั้ง
3.5มาตราฐาน , 2.5 Balanced , 4.4 Balanced

ขั้ว MMCX ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
ใช้การออกแบบทรงกระบอกกลวง เพื่อล็อคหูฟังและปรับปรุงการเชื่อมต่อ
ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความแข็งแรง และอายุการใช้งานที่ยาวนาน
รองรับการใช้งานกับ ขั้วต่อ MMCX มาตราฐานได้อย่างกว้างขวาง

หัวแจ็ค Quick-Switch ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
หัวแจ็คที่สามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย และมาพร้อมคุณสมบัติล็อคอัตโนมัติ
ซึ่งช่วยให้การฟังเพลงมีความสะดวกมากขึ้นในการเปลี่ยนอุปกรณ์หนึ่งไปเป็น
เครื่องใหม่ รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์เสียงหลากหลาย

*** สินค้ามีเฉพาะหัวแจ็คแบบ 3.5 mm หนึ่งตัวให้เท่านั้น ***

คู่มือการใช้งานติดตั้งแจ็ค

การติดตั้ง
1.ให้หันตำแหน่งจุด P1 ในภาพของแจ็ค ตรงกับจุด P2 ของตัวสาย
จับให้ตรงตำแหน่งตามภาพจากนั้นดันตรงๆเข้าหากัน

2.ตัวขั้วต่อแจ็คกับตัวสายจะทำการล็อคให้โดยอัตโนมัติ เมื่อตำแหน่ง
P1 และ P2 ทับซ้อนกันพอดี

การเปลี่ยนหัวแจ็ค
3.เมื่อต้องการเปลี่ยนหัวแจ็คไปใช้ตัวอื่น ให้ใช้มือซ้ายจับแจ็คเอาไว้ดังภาพ
ส่วนมือขวาให้จับในตำแหน่งที่ไม่ลื่นดังภาพแล้วดึงออก

4.เมื่อตำแหน่งของตัวสายของตัวสายเห็นจุดในตำแหน่ง P2
หมายความว่าได้ทำการถอดเปลี่ยนแจ็คสำเร็จแล้ว